ถ้าผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ ผมจะพลาดอะไรในชีวิตของผมบ้าง?
“ถ้าผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ ผมจะพลาดอะไรในชีวิตของผมบ้าง?”
สวัสดีครับ ผม...ครูเฟียต
เรื่องนี้กลั่นออกมาจากประสบการณ์ของผมจริงๆ เลยครับ
หวังว่าคนส่วนใหญ่อ่านแล้วน่าจะได้กำลังใจในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ
เพื่ออนาคตที่ดีของตัวคุณเองนะครับ...Kru Fiat
วันนี้ ขอเล่าเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัวให้อ่านกันครับ
ตอนผมเรียนอยู่ป.ตรี ปี 3 มีทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน
ที่สหรัฐอเมริกา 1 ทุนเข้ามาให้นักศึกษาในภาควิชาที่ผมเรียนอยู่ ซึ่งณ ตอนนั้นผมเองก็มีสิทธิ์ลุ้นกับเค้าอยู่เหมือนกัน
เกรดเฉลี่ยก็ ok อยู่ แต่สุดท้ายก็พลาดทุนนั้นไปเพราะมีเพื่อนร่วมรุ่นที่ทักษะภาษาอังกฤษดีกว่าผมเยอะ
แม้เธอจะเกรดเฉลี่ยไม่ดีเท่าผมก็ตาม แต่เธอก็สามารถคว้าทุนนั้นไปได้ จากการพลาดโอกาสดีๆ
ในชีวิตครั้งนั้นมันทำให้ผมยิ่งตระหนักในความสำคัญของภาษาอังกฤษ และพยายามพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
ของผมมาโดยตลอด เพื่อที่จะไม่เกิดเหตุการณ์พลาดโอกาสงามๆ ในชีวิตอีกครั้งครับ
เมื่อเช้า ผมเลยคิดเล่นๆ ว่า “ถ้าผมไม่เก่งภาษาอังกฤษ ผมจะพลาดอะไรในชีวิตของผมบ้าง?”
มาให้แฟนๆ ได้อ่านกันครับ
- ผมจะไม่ได้รับทุนศึกษาต่อปริญญาโท ภาคภาษาอังกฤษในประเทศไทย ทางสาขาวิศวกรรมเคมีแบบฟรีๆ
แถมยังมีเงินเดือนให้ใช้ระหว่างเรียนอีกเดือนละ 8,000 บาท เรียกได้ว่าเรียนป.โทโดยไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่เลยครับ - ผมจะไม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นพิธีกรสัมภาษณ์อาจารย์จากมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง MIT
ในสมัยที่เรียนป.โท ต่อหน้าเพื่อนๆ พี่ๆ และคณาจารย์ ผมยังจำได้ไม่ลืมครับ - ผมจะไม่ได้รับงานลงเสียงภาษาอังกฤษเปิดตัวบริษัทนึง ที่สำคัญคือคนที่มาจ้างผมเป็นเด็กจบนอกซะด้วยสิ
แต่ผมไม่เคยไปเรียนเมืองนอกเลยครับ เลยแอบภูมิใจว่า เออ...เราทำได้เว้ยเฮ้ย! - ผมคงไม่ได้งานที่มั่นคงจากบริษัทชั้นนำ ซึ่งทำมาตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบันก็ 12 ปีเศษแล้ว
- ผมคงจะมีประสบการณ์การเดินสมัครงานหลังเรียนจบ (เพราะข้อ 4 เลยไม่มีประสบการณ์หางานเท่าไหร่)
- ผมคงไม่ได้เปิดโรงเรียนสอนภาษาครูเคท สาขาศรีราชาร่วมกับครูเคท ครูสอนภาษาอังกฤษ
ในดวงใจตลอดกาลของผมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว - ผมคงไม่ได้เจอกับลูกศิษย์นับพันๆ คนอย่างปัจจุบัน และผมคงจะไม่ได้ช่วยเหลือให้คนไทย
พูดภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจมากขึ้นและฟังออกมากขึ้นเช่นกัน - ผมคงไม่มีอาชีพที่ 3 คือการเป็นดีเจจัดรายการเพลงเพราะๆ ที่ทำทุกวันเสาร์อย่างในตอนนี้
- ผมคงไม่ได้รับการนับหน้าถือตาอย่างปัจจุบันจากคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์, เพื่อนร่วมงาน,
พี่ๆ ที่ทำงาน ที่ไว้วางใจมักจะมาปรึกษาปัญหาภาษาอังกฤษและเรียกผมว่า “อาจารย์” - ผมคงไม่ได้เขียนบทความเกี่ยวกับการฝึกฝนภาษาอังกฤษลงในนิตยสารของบริษัทที่ผมทำงาน
หรือนิตยสารของทรูปลูกปัญญาที่มีอ่านทั้งประเทศ - ผมคงไม่ได้เป็นเจ้าของ http://krufiat.bloggang.com/ ที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ
ที่มีคนเข้ามาดูเกินครึ่งล้านไปแล้วครับ - ผมคงไม่ได้เป็นเจ้าของ Krufiat channel ใน YouTube ที่ส่วนใหญ่จะใช้เผยแพร่ความรู้ทางภาษาอังกฤษ
ที่มีคนสมัครรับข่าวสาร 805 คน และมีคนเข้ามาดู 642,210 ครั้งในขณะนี้ครับ
เอาแค่นี้ก่อนละกันครับ ขอเรียนให้ทราบว่าที่เขียนมาทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาเพื่ออวดความเก่งของตัวผมเองหรอกนะครับ
แต่อยากให้ผู้อ่านทุกท่านเห็นว่าจากคนธรรมดาๆ คนนึงที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิด (เมื่อก่อน ตอนเรียน
อยู่ป.ตรี ปี 4 ผมลงเรียนหลักสูตรการฟัง (Listening) ยังได้คะแนนเกือบตกอยู่บ่อยๆ เลยครับ) แต่โชคดี
ที่เจอหลักสูตรที่ดี ครูที่ดี ทำให้ผมสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างทุกวันนี้ ต้องขอขอบพระคุณ
อาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษทุกท่านตั้งแต่สมัยประถม มัธยม ยันมหาวิทยาลัย และที่สำคัญสุดคือ
ครูเคท เนตรปรียา ที่ทำให้ผมพูดได้และฟังออกอย่างทุกวันนี้ครับ จะเห็นได้ว่าภาษาอังกฤษเป็นใบเบิกทาง
มาตั้งแต่ผมเรียนปริญญาโทมาจนถึงปัจจุบันก็ร่วม 15 ปีได้แล้วครับ แล้วก็คงจะเป็นอย่างนี้ต่อไปชั่วชีวิตของผมเช่นกัน
ปัจจุบัน เวลามีน้องๆ นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่คนทำงานมาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่โรงเรียนที่ผมสอน
ผมมักจะบอกกับพวกเค้าเสมอว่า ขยันเรียน ขยันฝึกฝนภาษาอังกฤษเยอะๆ นะ เพราะมันสามารถพลิกชีวิตคุณได้จริงๆ
คนที่เก่งภาษาอังกฤษย่อมมีภาษีดีกว่าคนที่ไม่เก่ง คุณจะมีโอกาสงามๆ วิ่งเข้ามาชนคุณอยู่เรื่อยๆ
ในขณะที่คนไม่เก่งก็ต้องวิ่งหาโอกาสเหล่านั้นด้วยตัวเองครับ
นี่คือเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงที่ผมเจอ ไม่มีการอิงนิยายใดๆ ชีวิตของคุณ คุณเป็นผู้เลือกและกำหนดเอง
คุณจะเลือกใช้ชีวิตสบายๆ อย่างปัจจุบันหรืออาจจะลำบากนิดหน่อยในการฝึกฝนภาษาอังกฤษเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของคุณ
ลองกลับไปคิดดูนะครับ ส่วนคนที่ได้รับโอกาสงามๆ จากการที่เราเก่งภาษาอังกฤษ ผมอยากให้มาช่วยกันแชร์
เพื่ออาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษได้ไงครับ
"ขอให้ขยันฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ติดเป็นนิสัยจนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดั่งใจในที่สุดนะครับ"
Kru Fiat
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments
-
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับคนไทยที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ แบบไม่ต้องไปเรียนนอก ตอนนี้ความฝันที่เฟียตมีมาตลอด 5 ปีเป็นจริงแล้วครับ! E-book ชื่อ “เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบน...
-
ใครที่ใช้ e-mail ในการติดต่อสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษอย่างผม บ่อยครั้งเราต้องทำการนัดหมายการประชุม วันนี้ผมมีรูปประโยคเด็ดๆ ที่ฝรั่งเค้าใช้กันมาให้คุณจำและนำไปใช้ได้อย่างมืออาชีพเลยครั...
-
1) Thank you for your email.ขอบคุณสำหรับอีเมล์ของคุณ หากคุณได้รับอีเมล์จากลูกค้าและจะตอบกลับตามมารยาทที่ดี ก็ควรขึ้นต้นด้วยการขอบคุณที่เค้าส่งอีเมล์มาให้คุณก่อนเลย หากอยากระบุไปเลย...
-
5 กลุ่มคำศัพท์ที่จะทำให้บทความภาษาอังกฤษของคุณดูเลอค่าขึ้นเยอะ! 1) First of all / Firstly / First / Secondly / Finally หากคุณต้องการเสนอหลายๆ ไอเดียตามลำดับ 1 2 3 4… เพื่อเป็นการง่...
-
...นี่คือ คำกล่าวหนึ่งของนักศึกษาที่มาเรียนเรื่อง Tense กับผมจบภายใน 1 ชั่วโมงเศษเท่านั้น คุณใช้ Tense ปราบเซียนนี้เป็นหรือไม่?ลองตอบคำถามนี้ดูนะครับ.Paul’s friend…. when he reache...
-
ไขความลับ...ทำไมเด็กจึงเรียนภาษาได้เร็วกว่าผู้ใหญ่มาก? ผมเคยให้การบ้านผู้เรียนท่านหนึ่งไปพูดตามหนังที่บ้านเวลาที่เธอฝึกพูดตามหนังหน้าโทรทัศน์ ลูกน้อยของเธอก็จะนั่งดูคุณแม่ฝึกไปด้วย...
-
นี่คือหนึ่งในคำถามที่ลูกศิษย์ผมชอบถามอยู่บ่อยๆ ขอตอบอย่างนี้ครับ มันมีข้อดีและข้อด้อยอยู่เหมือนกันนะ ถ้าให้เลือกคำตอบเดียวว่า “ดี” หรือ “ไม่ดี”... ผมขอเลือก “ดี” ไว้ก่อน อย่างน้อย....
-
อยากลงท้ายอีเมล์ให้เจ๋ง ใช้คำว่าอะไรดี? คุณเคยมั้ย...คิดแล้วคิดอีกว่า...เราจะลงท้าย email ที่เราเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไรดี? วันนี้ผมมีคำแนะนำมาฝากกันครับ1) Regards, หรือ Best ...
-
ประโยคใน e-mail ที่ว่า "Please find attached my report." ถูกต้องหรือไม่? เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์มาจากพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ถามว่า“เฟียต...ไอ้ประ...
-
คำถามชวนคิด...สะกิดต่อมอยากรู้ วันนี้ผมมี 10 คำถามมาให้คุณโหวตกันว่าคุณอยากรู้คำตอบของคำถามไหนมากที่สุด? เพียงแค่คุณระบุหมายเลขของคำถามที่คุณอยากรู้คำตอบใน comment เลือกได้เพียง 1 ...
-
10 ประโยคภาษาอังกฤษที่คุณนำไปใช้ได้ หากคนรับสายไม่อยู่ 1) I’m sorry. Mr. John is in the meeting. ขอโทษ คุณจอห์นกำลังประชุมอยู่2) I’m sorry. There’s no reply from Mr. John. ขอโทษ ไม...