บทความ Self-Improvement

♦ บทความ Self-Improvement

The Miracle Morning  (แปลไทย โดย ครูเฟียต)

คือนานๆ ผมจะแปลภาษาอังกฤษให้อ่านกันทีนึง
เพราะโดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบการแปลเท่าไหร่ 
แต่งานนี้เพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะครับ
อยากให้คุณได้รับข้อมูลดีๆ จากหนังสือฝรั่งดีๆ

ผมขอสรุปเนื้อหาสำคัญจากหนังสือ The Miracle Morning เขียนโดย Hal Elrod (ได้ 4.5 จาก 5 ดาว)
ที่รับประกันว่าชีวิตคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป (ก่อน 8 โมงเช้า) เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

  1. คนส่วนใหญ่มีอาการกระจกมองหลัง “Rearview Mirror Syndrome” (RMS)
    คือ คุณเชื่อว่าตัวคุณในตอนนี้เหมือนกับตัวคุณในอดีต ดังนั้นเวลาคุณตัดสินใจเลือกอะไร
    คุณจะใช้ประสบการณ์ในอดีตมาเป็นข้อจำกัดของคุณเอง พอมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามา
    คุณก็จะไม่ฉวยมันไว้เพราะไม่เคยทำมาก่อน เช่น คนที่ไม่กล้ามีความรักครั้งใหม่เพราะในอดีต
    เค้าเคยมีประสบการณ์อันเลวร้ายเรื่องคู่ครองมาก่อน

  2. คนส่วนใหญ่ชอบคิดแบบแยกเหตุการณ์ (isolating incidents)
    คือคิดว่าแต่ละเหตุการณ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่จริงๆ แล้วมันเกี่ยวนะ
    เช่น วันนี้กะว่าจะไปออกกำลังกายสักหน่อย แต่สุดท้ายก็เลื่อนมันไปพรุ่งนี้แทน
    คุณอาจจะนึกว่าไม่เห็นเป็นไร ไม่มีผลกระทบในตอนนี้ แต่จริงๆ แล้ว
    มันส่งผลด้วยว่าคุณเป็นคนยังไง เพราะหากคุณทำมันบ่อยๆ
    สุดท้ายก็กลายเป็นนิสัยติดตัวคุณ และทำให้ประสบความสำเร็จได้ยาก
    ดังที่ T. Harf Eker กูรูชื่อดังกล่าวไว้ว่า “How you do anything is how you do everything.”
    คุณทำบางอย่างยังไง คุณก็มักทำทุกอย่างอย่างนั้นด้วยเหมือนกัน

  3. เริ่มต้นวันใหม่ที่ดีด้วยการหยุดกดเลื่อนเวลาปลุกและคิดเกี่ยวกับการนอนของคุณซะใหม่
    ทุกครั้งที่คุณกดเลื่อนเวลาบนนาฬิกาปลุก จิตใต้สำนึกคุณกำลังบอกคุณว่า
    คุณไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอชีวิตหรือสิ่งที่รอคุณอยู่ในวันใหม่ คุณกำลังลดโอกาสที่จะเจอวันดีๆ
    เต็มไปด้วยพลัง แต่ถ้าคุณตื่นขึ้นมาอย่างมีจุดมุ่งหมาย คุณก็จะสร้างวันแห่งความสุขด้วยตัวคุณเอง

  4. โอปรา วินฟรีย์, บิลล์ เกตส์, ไอน์สไตน์ และอริสโตเติ้ล ล้วนแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ทุกคนล้วนตื่นเช้า

  5. ในเช้าวันเกิด วันแต่งงาน หรือวันคริสต์มาส ปกติเรามักจะตื่นขึ้นมาด้วยความแจ่มใส
    มีพลัง แม้จะนอนน้อยก็ตาม นั่นเป็นเพราะความเชื่อที่มีผลอย่างมากต่อความรู้สึกยามตื่นของเรา

  6. ผู้แต่งพบว่าความคิดตอนนอนสำคัญมาก
    หากคุณคิดว่า คุณมีเวลานอนน้อย เดี๋ยวคอยดู พรุ่งนี้ฉันคงง่วงแน่นอน
    ตื่นขึ้นมาคุณก็จะไม่มีแรง แต่หากคุณคิดก่อนนอนว่า คุณจะรู้สึกดีจัง
    พอตื่นนอนมา คุณก็จะสดชื่นทั้งๆ ที่บางทีนอนน้อยเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น

  7. แนะนำให้วางนาฬิกาปลุกให้ห่างจากเตียง คุณต้องลุกออกจากเตียงเพื่อไปปิดเสียงนาฬิกาปลุก
    ไหนๆ ลุกแล้วก็เข้าห้องน้ำ แปรงฟันซะเลยนะ จะได้สดชื่น หลังจากนั้น ก็ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว
    เพราะคุณเสียน้ำไปจากการหายใจช่วงการนอนหลับตลอดคืน การขาดน้ำจะทำให้คุณอ่อนเพลียได้

  8. หลังตื่นนอนตอนเช้าแนะนำให้ใช้ความเงียบอย่างมีจุดหมาย อย่างที่คนดังหลายๆ คนทำ
    เช่น การนั่งสมาธิ หยุดความวิตกกังวลแล้วเพ่งสมาธิไปที่ลมหายใจจะทำให้คุณต่อสู้กับความเครียด

  9. แนะนำให้พูดกับตัวเอง (positive affirmation) เพื่อให้จิตใต้สำนึกทำงาน วิธีการคือให้เขียนว่า
    คุณต้องการให้ชีวิตคุณเป็นอย่างไรในทุกๆ มิติ เช่น ด้านการเงิน ด้านสุขภาพ ด้านความรัก ฯลฯ
    ทำไมคุณถึงต้องการมัน? แล้วคุณต้องทำอะไรเพื่อให้ได้มันมา? เมื่อคุณเขียนแล้ว
    คุณต้องอ่านมันดังๆ อย่างน้อยวันละครั้ง

  10. เครื่องมืออีกชิ้นที่สำคัญคือการใช้จินตนาการมองเห็นภาพ (visualization)
    ในสิ่งที่คุณอยากเป็น, ชีวิตในฝัน, ความฝันหรือเป้าหมายของคุณ
    หรือการซ้อมทางจิต (mental rehearsal) ซึ่งการถามตัวเองว่า
    ฉันต้องการอะไร?
    ฉันต้องการมันทำไม?
    ฉันต้องทำอะไรถึงได้มันมา? ช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้น

  11. การออกกำลังกายยามเช้าจะทำให้คุณสำเร็จและสุขภาพดี คนส่วนใหญ่หาเวลาออกกำลังกายไม่ได้
    ก็แนะนำให้ทำอย่างแรกในตอนเช้าซะเลย อย่าผัดไว้ทำทีหลังเพราะสุดท้ายคุณก็จะไม่ได้ทำมันในที่สุด
    ผู้เขียนแนะนำให้ฝึกโยคะตาม DVD สัก 20 นาทีต่อวัน ช่วยทำให้เค้าตื่นและมีพลังไปตลอดวัน

  12. การอ่านและการเขียนเป็น 2 สิ่งที่จะสะท้อนความสำเร็จและเขยิบเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตของคุณ
    คุณอาจจะตั้งเป้าอ่านหนังสือ 10 หน้าต่อวันโดยใช้เวลา 10-20 นาที 1 ปีคุณจะอ่านได้ 3,650 หน้า
    เท่ากับหนังสือ 18 เล่มต่อปีเลยนะ การเขียนสัก 5-10 นาทียามเช้าจะช่วยเร่งให้คุณพัฒนาไปไกล
    เขียนความคิด ความรู้สึก สิ่งลึกๆ ในใจคุณออกมา ผู้เขียนจะแบ่งหน้ากระดาษเป็น 2 ฝั่ง
    ฝั่งแรกเขียนบทเรียนที่ได้รับ (lessons learned)
    และอีกฝั่งเขียนสิ่งที่สัญญาว่าจะทำ (new commitments)
    การทำเช่นนี้ทำให้เราไม่ทำผิดซ้ำแถมเปลี่ยนชีวิตไปเลย

  13. ลองจัดสรรเวลาของคุณทำสิ่งต่างๆ ที่แนะนำไป
    บางคนอาจจะใช้ 60 นาทีทำทั้ง 6 อย่างหรือใช้ 30 นาทีในการออกกำลังกาย
    และก็ทำอย่างอื่น อย่างละ 5 นาที หรืออย่างน้อยถ้าคุณมีแค่ 6 นาทีจะแนะนำให้คุณทำต่อไปนี้ (อย่างละ 1 นาที)
       1) นั่งเงียบๆ ทำสมาธิ
       2) พูดกับตัวเอง
       3) มองเห็นภาพว่าวันนี้เป็นวันดีของคุณ
       4) เขียนสิ่งที่คุณขอบคุณและสิ่งที่คุณจะทำให้สำเร็จในวันนี้
       5) อ่านหนังสือ 2 หน้า
       6) วิดพื้นหรือซิตอัพ

  14. การจะทำตอนเช้าให้เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล
    คุณต้องทำสิ่งที่ผู้เขียนแนะนำ 30 วันจนติดเป็นนิสัยและแนะนำ
    ให้หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันมาทำด้วยกันจะสำเร็จได้ง่ายกว่าทำเพียงคนเดียว
    โดยคุณจะเจอ 3 ช่วงคือ 10 วันแรก คุณจะพบว่ามันช่างยากเย็นซะเหลือเกิน
    10 วันถัดมาจะง่ายขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ ไม่ค่อยชิน และ 10 วันสุดท้าย
    มันจะกลายเป็นนิสัยใหม่ของคุณที่คุณเริ่มพอใจกับมัน

 สรุป 6 ขั้นตอนที่ทำในตอนเช้าแล้วจะเปลี่ยนชีวิตคุณ

1. silence ทำสมาธิ
2. affirmations พูดกับตัวเอง
3. visualization ใช้จินตนาการเห็นภาพ
4. exercise ออกกำลังกาย
5. reading อ่านหนังสือ
6. writing เขียนหนังสือ

แปลและสรุปโดย...Kru Fiat


ชื่อผู้ตอบ:


  • หลากหลายบทความดีๆ และอัดแน่นด้วยความรู้พร้อมประโยชน์ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ ด้วยเทคนิคพิเศษมากมาย พบกับผม (ครูเฟียต) ได้ที่นี่ และhttps://www.f...

  • เก่งอังกฤษ ด้วยเทคนิคสุดเจ๋ง by...KruFiat พบกับโจทย์ภาษาอังกฤษที่ทำให้คุณได้ฝึกไปพร้อมๆ กับผม ครูเฟียต ได้ทุกๆ วันที่นี่ และที่https://www.facebook.com/krufiat.english/
Visitors: 96,453